หมายจับคดีฆ่าทหารจู่โจมค่ายรวบได้อาร์เคเคแอบซ่อนในป่า
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=419&contentID=120345 บุกจู่โจมจับกุมแนวร่วมโจรใต้ปะทะเดือดเด็ดชีพอาร์เคเค ผู้ต้องหาหนีการประกันตัว คดีฆ่าและเผาวัดพรหมประสิทธิ์ รวบผู้ต้องสงสัยได้อีก 2 คน หนึ่งในนั้นมีผู้ช่วยผญบ.อยู่ด้วย รับรู้จักและเป็นเพื่อนกับผู้ตาย หิ้วไปสอบสวนขยายผลต่อไป ขณะที่ทหารอีกชุดนำกำลังบุกทลายแหล่งซ่องสุมกำลังโจรใต้ บนเทือกเขาบ้านเจาะเกาะ อ.เจาะไอร้อง บุกยึดชุดลายพรางทหาร กระสุนเอ็ม 16 หมวกไหมพรม เปลสนาม เชือก เวชภัณฑ์ มีดพร้า เป้สะพาย เข็มขัดกระสุน กว่า 100 รายการ จับกุมแนวร่วมอาร์เคเคได้อีก 1 คน เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 9 ก.พ. พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พ.ท.ชัยนรินทร์ เกษมโชติพัฒน์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 ร.อ.สมบูรณ์ โชติเนตร หัวหน้าฝ่ายข่าว ฉก.นราธิวาส 31 นำกำลัง 50 นาย เดินเท้าไปบนเทือกเขาลาดชันประมาณ 1 กม. เพื่อตรวจสอบบนเทือกเขาบ้านเจาะเกาะ หมู่ 13 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง หลังจากสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค ใช้เป็นสถานที่ตั้งฐานปฏิบัติการย่อย เพื่อซ่องสุมกำลังเตรียมวางแผนก่อเหตุร้ายในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จากการตรวจสอบพบฐานปฏิบัติการย่อยของกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค ปลูกสร้างด้วยเสาไม้ และใช้ผ้าใบกันฝนทำเป็นหลังคา 1 หลัง ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินดิน โดยมีกองกำลังติดอาวุธ 6-7 คน เดินและนั่งอยู่รอบ ๆ ฐาน จึงกระจายกำลังกันปิดล้อม แต่ทันทีที่กองกำลังติดอาวุธเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ส่งสัญญาณยิงใส่ทันที จนทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากปะทะกันนานกว่า 15 นาที และกลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัว จึงพากันนำกำลังล่าถอยไป แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมสมาชิกแนวร่วมได้ 1 คน พร้อมยึดของกลางได้กว่า 100 รายการ ประกอบด้วย ชุดลายพรางทหาร, กระสุนปืนเอ็ม 16, หมวกไหมพรม, เปลสนาม, เชือก, เวชภัณฑ์, มีดพร้า, เป้สะพาย, เข็มขัดกระสุน, ผ้าโสร่ง, เสื้อยืดสกรีนภาษารูมี แปลเป็นไทยว่า “แผ่นดินใครปกครอง” และข้อความอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมควบคุมตัวสมาชิกแนวร่วม 1 คน ไปตรวจสอบและสอบขยายผลที่ฐานปฏิบัติการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 31 พร้อมประสานพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มาตรวจสอบเก็บดีเอ็นเอ ไว้เป็นหลักฐานขยายผลไปสู่การจับกุมกลุ่มสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ มาดำเนินคดีต่อไป ขณะที่กองกำลังอีกส่วนหนึ่ง นำโดยพ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 นำกำลังขึ้นไปตรวจสอบบนเทือกเขาบ้านเจาะเกาะ เพื่อติดตามกลุ่มสมาชิกกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคที่หลบหนีไป เพราะเชื่อว่าน่าจะมีอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่คนร้ายปล้นไปจากคลังอาวุธของร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผบก.หัวหน้าสืบสวนคดีความมั่นคง ศปก.ตร.ส่วนหน้า ได้รับรายงานว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี เพื่อเตรียมการก่อเหตุ จึงสนธิกำลังกว่า 100 นาย นำโดย นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผวจ.ปัตตานี พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี นายพิศาล อาแว นายอำเภอมายอ กระจายกำลังปิดล้อมหมู่บ้านถนน ที่บ้านเลขที่ 172 หมู่ 1 ต.ถนน อ.มายอ พร้อมตะโกนให้คนในบ้านออกมาข้างนอกบ้าน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงกระโดดออกทางหลังบ้าน จึงนำกำลังออกติดตาม จนเกิดการยิงปะทะกันประมาณ 1 นาที และหลังสิ้นเสียงปืน จึงเข้าตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ศพ สภาพศพที่มือขวากำอาวุธปืนขนาด 9 มม.อยู่ 1 กระบอก มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณลำตัวหลายนัด ใกล้กันพบแมกกาซีนพร้อมกระสุน 21 นัด จากนั้นได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพบเอกสารจำนวนหนึ่ง และที่บริเวณหลังบ้านพบอาวุธปืนลูกซองของทางราชการตกอยู่ 1 กระบอก จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 2 คน คือ นายมูฮำหมัดอาดัม วาแม็ง อายุ 26 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความปลอดภัย และนายตายูดิง นาวา อายุ 26 ปี ชาวบ้านบ้านถนน หมู่ 1 ต.ถนน สอบสวนเบื้องต้นทั้งสองคนให้การว่ารู้จักและเป็นเพื่อนกับผู้ตาย โดยผู้ตายมักจะมาเยี่ยม และพูดคุยอยู่บ่อยครั้ง อ้างไม่ทราบว่าเป็นแนวร่วมอาร์เคเค เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมไปสอบสวนขยายผลต่อไป เวลา 16.25 น. นายอาหามะ ปะดอ อายุ 45 ปี ญาติผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาตรวจสอบ และระบุว่าผู้เสียชีวิตคือนายมะกอเซ็ง ปะดอ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 1 บ้านลางสาด ต.กระเซาะ อ.มายอ จ.ปัตตานี และจากการตรวจค้นในกระเป๋าพบบัตรยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตคือนายมะกอเซ็ง ปะดอ โดยมีนายพิศาล อาแว นายอำเภอมายอ ร่วมตรวจสอบด้วย สำหรับนายมะกอเซ็ง ปะดอ เป็นแนวร่วมอาร์เคเค และเป็นผู้ต้องหามีคดีหนีการประกันตัว คดีฆ่าและเผาวัดพรหมประสิทธิ์ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และมีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติคนร้ายคดีความมั่นคง โดยหลบหนีไปกบดานที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จึงไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ปัตตานีมานานแล้ว กระทั่งลักลอบเข้ามาในพื้นที่ และถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุม แต่พยายามขัดขืนต่อสู้ จึงถูกยิงเสียชีวิต ต่อมาเวลา 17.00 น. พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดที่ถนนภายในหมู่บ้านแบรอจะรัง หมู่ 2 ต.ตะลุโบะ จึงนำกำลังพร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบหลุมกว้าง 30 ซม.และมีชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิด และเศษกล่องเหล็กกระจายไปทั่ว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 23 จำนวน 4 นาย กำลัง ขี่รถจยย. 2 คันกลับมาจากดูแลความปลอดภัยครูหลังเลิกเรียน แต่ระหว่างลาดตระเวนมาถึงจุดเกิดเหตุคนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือจนเสียงดังสนั่น แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น