วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ระเบิดเพื่ออัลเลาะห์ อีกแล้ว

โจรใต้วางแผนลวงสังหารจนท.ก่อเหตุยิงคาราโอเกะก่อนวางคาร์บอม 20 กก.ดักซ้ำ โดนชาวบ้านเจ็บ 17 ราย รถยนต์-จยย.ยับ 12 คัน


คนร้ายไม่ทราบจำนวนวางแผนก่อเหตุร้ายกลางเมือง จ.นราธิวาส ครั้งนี้เมื่อเวลา 19.20 น.วันที่ 19 ก.พ. โดย ร.ต.อ.สุชาติ หมีลำพอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ร้าน มายาคาราโอเกะ ตั้งอยู่ถนน ณ นคร ซอย 21/1 ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พ.ต.ท.สมชาย พนมอุปการ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส(ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส) พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารและฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง
 
ในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ น.ส.เรไร สังข์ทอง และ น.ส.ชนิตา จอบุตรตะ ลูกจ้างร้านมายาคาราโอเกะ ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณหัวไหล่และลำตัวได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์  
 
ต่อมาในเวลา 19.45 น.ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้เกิดระเบิดขึ้นที่รถยนต์บริเวณริมถนนหน้าร้านดาวพระจันทร์นวดแผนโบราณ เลขที่ 151/9 ถนนสุริยะประดิษฐ์ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส ห่างจากจุดเกิดเหตุแรกประมาณ 100 เมตร


หลังเกิดเหตุต่อเนื่องกัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าจุดเกิดเหตุที่สอง ปรากฏว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 15 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเมตตาธรรม ได้ระดมนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์อย่างเร่งด่วน ส่วนสภาพที่เกิดเหตุซากรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนด์เซอร์ สีเลือดหมู ทะเบียน กท 9804 นราธิวาส ที่ถูกวางระเบิดคาร์บอมได้รับความเสียหายทั้งคัน 
 
แรงระเบิดได้ทำให้เกิดความเสียหายบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะอาคารพาณิชย์ซึ่งอยู่ด้านข้างของจุดระเบิดเสียหาย 4 ห้อง รถจักรยานยนต์ และรถยนต์กระบะของชาวบ้านที่จอดอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย 12 คัน

จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่กลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดในครั้งนี้ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหนัก 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยมีชิ้นส่วนระเบิดกระจายเกลื่อนพื้นถนนเป็นรัศมีกว้างกว่า 30 เมตร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ พบว่ามีผู้บาดเจ็บ 15 ราย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดตามบริเวณลำตัว ผู้บาดเจ็บ ประกอบด้วย 1.นางดวงฤดี ชวาลา 2.นางสุไฮลา อาแวบือซา 3.นายสุไฮดี อาแวบือซา 4.ด.ช.สมาน ดือเระ 5.นายสมบูรณ์ พรหมพูล 6.ด.ญ.นัสริน มะดีซู 7.นายปริญญ์ วงศาริยะ 8.นายสุทธิศักดิ์ ถาวรสุข 9.พลทหารเจตต์ นวลเขว่ง 10.อาสาสมัครจีระศักดิ์ นงรัตน์ 11.ด.ช.มูฮำหมัดอิลรัม ดือเระ 12.ด.ช.มูฮำหมัดอิรฟาน ดือเระ 13.นางบุญส่ง วงศาริยะ 14.นายเจตต์ ยอดศรี และ 15.นางสุดใจ แก่นท้าว รวมกับ 2 รายที่ถูกยิงเป็น 17 ราย
 
ด้านนายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส คาดว่าคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อให้พื้นที่เกิดความปั่นป่วน ด้วยการวางแผนใช้อาวุธปืนยิงใส่ร้านคาราโอเกะ เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุโดยผ่านจุดวางระเบิดคาร์บอม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขับผ่านไปประมาณ 20 เมตร คนร้ายจึงจุดชนวนระเบิดที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์เก๋ง จึงทำให้เจ้าหน้าที่ปลอดภัย แต่ชาวบ้านที่เดินทางมาเที่ยวในร้านคาราโอเกะถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด เพื่อติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี

ตร.กำลังสเก็ตภาพคนร้าย พบกลุ่มที่ลงมือความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้หลายคดี ตั้งแต่ปี 2552
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยความคืบหน้าคดีคาร์บอมในเขตเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นการสเก็ตภาพคนร้าย แต่ยังขาดข้อมูลที่อยู่  ซึ่งต้องรอการหาข้อมูลเพิ่มเติม  ก่อนที่จะออกหมายจับต่อไป และที่สำคัญกลุ่มคนร้ายที่ลงมือปฏิบัติการครั้งนี้มีความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆใน 3 จังหวัดหลายคดี  ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา
                  
"มีความคืบหน้าไปพอสมควร หลังจากที่เรามีตำรวจจากนครบาลที่เพิ่งย้ายเข้ามาในพื้นที่ จ.ยะลา เข้ามาเสริมในการติดตามคนร้าย ในขณะเดียวกันเราก็มีการเปลี่ยนกลุ่มที่เจ้าหน้าที่ติดตาม จากเดิมที่เราคาดว่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ แต่พอเราสรุปล่าสุดไปเกี่ยวข้อง แต่เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งยังไม่สามารถให้รายละเอียดกลุ่มนี้ได้"
                
พล.ต.ต.โชติ กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติการเชิงรุก ปิดล้อม ตรวจค้น มากขึ้น  เพื่อติดตามคนร้าย และที่สำคัญในขณะนี้ทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่เป็นแนวร่วมของกลุ่มก่อความไม่สงบ  เริ่มมีความเคลื่อนไหว และเข้ามาร่วมกับกลุ่มคนร้ายเพิ่มขึ้น  หลังจากที่คนร้ายสามารถปฏิบัติการก่อเหตุได้สำเร็จหลายครั้ง 
              
 "ตอนนี้จะเรียกว่าคนที่จะเข้ามาเป็นแนวร่วมเริ่มเชื่อมั่นกลุ่มก่อความไม่สงบกว่าที่ผ่านมา จากการทำงานที่สามารถก่อเหตุ สร้างความสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินต่อเจ้าหน้าที่รัฐได้  ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักในการป้องกัน และติดตามการเคลื่อนไหวมากขึ้น" ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลากล่าว




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม