ล่าไอ้เป๋

 http://www.naewna.com/news.asp?ID=249982
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุคดีคาร์บอมบ์ และอีกหลายคดีใน จ.ยะลา และนราธิวาส โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดยะลาอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี

 จากการตรวจสอบและประเมินภาพคนร้ายจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดคดีคาร์บอมบ์ ที่หวังสังหารหมู่เจ้าหน้าที่ทหาร ในชุมชนเทศบาลยะลา ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 19 คน ร้านค้าถูกเพลิงไหม้ 15 คูหา พบเป็นชายวัยรุ่น เดินขาเป๋ เป็นผู้นำรถยนต์ซุกซ่อนระเบิดมาจอดทิ้งไว้ ซึ่งรูปพรรณของคนร้ายเป็นลักษณะเดียวกับผู้ที่ก่อเหตุระเบิดมาแล้ว 2 คดี ทั้งเหตุระเบิดข้างโชว์รูมรถยนต์ บนถนนรวมมิตรทำให้มีผู้บาดเจ็บ 20 คน เสียชีวิต 2 คน เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2553 และเหตุระเบิดบริเวณแขวงการทางใน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบชื่อแล้ว และสั่งการให้ชุดสืบสวน เร่งหาตัวคนร้าย เบื้องต้นเชื่อว่า คนร้ายรายนี้เป็นผู้รับช่วงในการนำรถยนต์ และจักรยานยนต์ บรรจุระเบิด ไปจอดตามหมายสั่งของผู้สั่งการ

 ส่วนความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านพบศพชายไม่ทราบชื่อถูกฆ่าตาย โดยสภาพศพถูกสวมใส่กุญแจมือแล้วคนร้ายได้นำศพมาทิ้งไว้ที่บริเวณริมสันเขื่อนแม่น้ำปัตตานี บริเวณบ้านจารูพัฒนา เขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ปรากฏว่าได้มีญาติของผู้ตายมาขอดูศพแล้ว โดยทราบชื่อผู้ที่เสียชีวิตคือ นายอาราฟัด มะเด็ง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.2 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และได้หายตัวไปจากพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และมาทราบอีกทีก็เสียชีวิตดังกล่าว

 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน จ.ยะลา นายหนึ่งให้การว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ได้มีรถยนต์กระบะขับผ่านด่านตรวจมาด้วยความเร็วสูง และไม่ยอมให้หยุดตรวจ โดยขับรถด้วยความเร็วมุ่งหน้าไปทางบ้านจารูพัฒนา และสามารถหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงคาดว่า ภายในรถยนต์คันดังกล่าวน่าจะมีศพของ นายอาราฟัด คนร้ายจึงไม่ยอมให้หยุดตรวจ ก่อนนำศพไปทิ้งไว้ริมเส้นทางที่หลบหนี ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เนื่องจากผู้ตายอาจรู้ความลับของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ จึงถูกฆ่าปิดปาก แล้วนำศพมาทิ้งในที่สุด

 ส่วนสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 8.30 น. พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุพานันท์ ผกก.สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณถนนทางหลวงสายยะรัง-มายอ ม.5 ต.ระแว้ง อ.ยะรัง หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามไล่ยิง นายแวอูเซ็ง กาซอ อายุ 44 ปี อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลระแว้ง อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.6 อ.ยะรัง เสียชีวิตคาที่เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ โดยจากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายกำลังขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน 935 พัทลุง บนถนนสายดังกล่าวเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน และรถกระบะไม่ทราบสีและยี่ห้อ ใช้เป็นพาหนะไล่ตามมา เมื่อได้จังหวัดได้ใช้อาวุธปืนสงครามตามประกบยิงใส่นายแวอูเซ็งเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที

 จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนสงครามขนาด 7.62 ม.ม. จำนวน 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บตรวจสอบเพื่อหาที่มาของอาวุธปืนดังกล่าว ส่วนสาเหตุการลอบยิงนั้น เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุจะเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบในพื้นที่หรือไม่

 วันเดียวกัน นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังร่วมงาน "มหกรรมบ้านและวัสดุตกแต่ง 2011" ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า ในปีนี้กลุ่มก่อความไม่สงบ ได้ยกระดับการก่อเหตุความไม่สงบอยู่ในระดับ 6-7 ตามแผนบันได 7 ขั้น ทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น เพื่อดิสเครดิตรัฐบาลในทุกรูปแบบ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่

 นายถาวร กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้เน้นย้ำให้กำลังทุกหน่วยเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการสกัดกั้นการลอบก่อเหตุร้าย โดยเฉพาะจัดเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญในการตรวจค้นเข้าประจำจุดตรวจ เพื่อตรวจสอบกลุ่มบุคคลเป้าหมายอย่างละเอียด พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงเหตุที่ต้องมีการตรวจค้นอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขวัญกำลังใจของพี่น้องชาวไทยพุทธในพื้นที่ยังดีอยู่ ยังไม่มีการอพยพออกจากพื้นที่ยกครอบครัว แต่ต้องยอมรับว่าทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่ มีความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น