สิทธิสตรีกับสตรีมุสลิม สตรีในยุคปัจจุบันแม้จะมีบทบาททางสังคมมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการละเมิดต่อสิทธิสตรีก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศมุสลิม ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีประเทศหนึ่งได้ออกกฎหมายที่มีลักษณะเช่นนี้ออกมาอีก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้สิทธิสตรีในชาติตะวันตกจะก้าวหน้าไปมาก แต่ในชาติตะวันออกแล้วเป็นเรื่องที่ยังค่อนข้างไกลตัว เนื้อหาของกฎหมายนี้มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิสตรี โดยมีเนื้อหาเป็นการกดขี่สตรีชาวมุสลิมให้ต้องอยู่ภายใต้อำนาจของสามีโดยมิอาจขัดขืนได้ เช่น ห้ามภรรยาปฏิเสธที่จะมีเพศสัมพันธ์กับสามี ห้ามมิให้ภรรยาฟ้องขอเลี้ยงดูบุตรหากอย่าขาดกัน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เอง ในการประชุม G20 ที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงระหว่างการพักการประชุม นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นาย กอร์ดอน บราวน์ ได้ออกมาประณามกฎหมายดังกล่าวว่ามีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิสตรีอย่างร้ายแรง และเรียกร้องให้ประเทศมุสลิมยกเลิกกฎหมายดังกล่าว โดยถ้าไม่มีการยกเลิก นาย กอร์ดอน ก็เรียกร้องให้นานาประเทศร่วมกดดัน จนกว่าจะมีการยกเลิกกฎหมายนี้ ในเรื่อง สิทธิสตรีนี้มีขึ้นมาเพื่อต้อต้าน ค่านิยมดั้งเดิมในอดีตที่เชื่อว่า สตรีนั้นเป็นเพศที่อ่อนแอ มักใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล จึงไม่เหมาะสมที่จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีผู้ชายคอยดูแล อีกทั้งสตรีจำเป็นต้องอยู่ใต้บังคับอำนาจของผู้ชาย จากแนวคิดในยุคต่อมา เมื่อผู้หญิงถูกกดขี่มากเข้า และต้องการจะมีส่วนร่วมมากขึ้น แต่ถูกกีดกันเนื่องจากแนวคิดนี้ จึงได้รวมตัวกันเรียกร้องให้สตรีมีสิทธิเท่าเทียมกับผู้ชาย ซึ่งต่อมาสิทธิสตรีก็เป็นที่ยอมรับมากขึ้น จนมาถึงในปัจจุบัน |
วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
สิทธิสตรีกับสตรีมุสลิม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น