วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เด็ดหัว RKK บ้านน้ำดำ ปัตตานี จับตาย 3 จับเป็น 1

เด็ดหัว RKK บ้านน้ำดำ ปัตตานี จับตาย 3 จับเป็น 1 

           เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 ต.ค. ศชต. ภ.จ.ปัตตานี สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ทพ.41 และทหาร ฉก.ปัตตานี 25 ได้นำกำลังร่วม 100 นาย เข้าไปทำการปิดล้อมตรวจค้นบริเวณสวนยางพารา ท้ายหมู่บ้านบือราแง ม.2 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง หลังเจ้าหน้าที่ได้มีการสืบสวนสอบสวน และได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงจึงได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมทันที แต่ปรากฏว่า คนร้ายไหวตัวทันเห็นเจ้าหน้าที่จึงวิ่งหลบหนีเข้าไปในสวนยาง พร้อมกับเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นสนั่นป่า ประมาณ 10 นาที สิ้นเสียงปืนเจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ข้างศพพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ไม่ทราบชื่อ 

         ขณะเดียวกัน ห่างกันประมาณ 200 เมตร ได้เกิดการยิงปะทะกันอีกระลอกใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่เข้าไปเคลียร์พบศพคนร้ายเสียชีวิตอีก 2 ราย ข้างศพพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. คนละกระบอก ทราบชื่อ 1 ราย คือ นายมะนูซี กาซา อายุ 27 ปี ส่วนอีก 2 รายยังไม่ทราบชื่อ เจ้าหน้าที่จึงได้นำไปชันสูตรศพที่โรงพยาบาลทุ่งยางแดงเพื่อรอญาติมายืนยันอีกครั้ง 

      นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อีก 1 ชุดที่ไล่ติดตามคนร้ายที่หลบหนีสามารถจับกุมได้ 1 คน ขณะขึ้นไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านของชาวบ้าน ทราบชื่อ นายอับดุลรอมัน ศาลา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 ม.2 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี 


Photo: คืบวิสามัญ 3 ศพโจรใต้วานนี้ เป็นแนวร่วมชุดใหม่

ศปก.จตช. เผย 3 ศพโจรใต้ที่ปะทะเจ้าหน้าที่ จนถูกวิสามัญ เป็นแนวร่วมชุดใหม่กลุ่มนายมะซาวี ล่าสุด จนท.ต้อง รปภ.ในพื้นที่เข้ม หวั่นสมาชิกออกมาตอบโต้ จนท...

จากเหตุปะทะ 3 ศพ ที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น บริเวณสวนยางพาราท้ายหมู่บ้านกำปงบือราแง ม.2 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงถูกวิสามัญเสียชีวิต 3 ศพและจับกุมได้ 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา 

วันนี้ (16 ต.ค. 56) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ศพผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะทั้ง 3 ราย ขณะนี้ทราบชื่อแล้ว หลังจากที่ญาติได้เดินทางมาดูศพแล้วนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม ประกอบด้วย 

1.นายมะนูซี กาซา อายุ 29 ปี 

2.นายซาการียา เจะแม อายุ 42 ปี 

3.นายอับดุลอาซิ สาและ อายุ 26 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบจากแฟ้มประวัติพบว่า เป็นกลุ่มแนวร่วมชุดใหม่ กลุ่มของ นายมะซาวี โดยทำหน้าที่ติดตามดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร...

ส่วนอีก 2 ราย คือ 
1. นายอับดุลรอมัน สาลา อายุ 28 ปี พบมีหมายจับ ป.วิอาญา 2 หมาย 
2. นายอีซอ มะดีเยาะ อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านที่คนร้ายหลบซ่อนตัว ขณะนี้ได้ควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก เพื่อสอบสวนขยายผลที่กรมทหารพรานที่ 41 แล้ว 

ส่วนอาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 3 กระบอกที่ยึดได้มาจากผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายนั้น ตรวจสอบพบว่ามีหมายเลขทะเบียน ระบุที่มาของอาวุธปืนได้ชัดเจน โดยหนึ่งในสามที่พบอยู่ที่ศพนายซาการียา พบว่าได้เคยนำไปก่อเหตุยิง นายเล็ก เสียชีวิตพื้นที่ ต.กะรุบี อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2552 และกำลังตรวจสอบว่าปืนทั้ง 3 กระบอกเคยนำไปก่อเหตุใดบ้าง

ด้าน พ.ต.อ.โพธ สวยสุวรรณ รักษาการ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงสนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจสอบในพื้นที่ ต.น้ำดำ และใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีคนร้ายที่หลบหนีไปได้อีก 1-2 ราย เชื่อว่าน่าจะกบดานในพื้นที่โดยมีสมาชิกแนวร่วมคอยให้ความช่วยเหลือ ซึ่งหากพบว่ามีใครช่วยเหลือก็จะดำเนินคดีทันที 

นอกจากนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่และชุดวิทยาการเข้าไปตรวจสอบและหาหลักฐาน เพิ่มเติมบริเวณจุดเกิดเหตุปะทะ เพื่อเก็บดีเอ็นเอ และหาอาวุธที่คาดว่าน่าจะฝังไว้เพื่อเตรียมก่อเหตุ ซึ่งคาดว่ากลุ่มดังกล่าวน่าจะเข้ามาเคลื่อนไหววางแผนเพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุในพื้นที่ สำหรับเหตุปะทะจนทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 3 ศพนั้น แท้จริงแล้วก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น อยากให้ออกมามอบตัวและให้สู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม สำหรับสถานการณ์โดยทั่วไปก็ยังไม่นิ่งนอนใจ เจ้าหน้าที่จะต้อง รปภ.เข้มทุกพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มก่อความไม่สงบอาจจะออกมาตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ และจะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ.

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/region/376555


















แฉ!โจรใต้3ศพ แนวร่วมชุดใหม่ ชื่อกลุ่ม‘มะซาวี’ ทำหน้าที่หาข่าว

          เผยโจรใต้ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ 3 ศพ หลังเปิดฉากดวลเดือดในสวนยาง อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นกลุ่มแนวร่วมชุดใหม่ ของขุนโจรตัวร้าย ”มะซาวี” ทำหน้าที่ติดตามรายงานความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร จนท.เร่งตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอหาประวัติอาชญากรรม ส่วน ผบ.ทร.ประเดิมลงใต้ เยี่ยม ฉก.นย.นราธิวาส เตือน ทร.ห้ามประมาทโจร ด้านผู้ว่าฯ ปัตตานีมอบปืนยาว 66 กระบอก ให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านใช้ป้องกันตนเองและดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่

       จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นบริเวณสวนยางพาราท้ายหมู่บ้านกำปงบือราแง หมู่ 2 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงถูกวิสามัญเสียชีวิต 3 ศพ และจับกุมได้ 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา

     ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า วันที่ 16 ต.ค.56 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการณ์ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว คือ 
  • 1.นายมะนูซี กาซา อายุ 29 ปี 
  • 2.นายซาการียา เจะแม อายุ 42 ปี และ 
  • 3.นายอับดุลอาซิ สาและ อายุ 26 ปี 
        จากการตรวจสอบจากแฟ้มประวัติ พบว่าเป็นกลุ่มแนวร่วมชุดใหม่ กลุ่มของนายมะซาวี โดยทำหน้าที่ติดตามรายงานความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร แต่ยังไม่มีหมายจับ จึงต้องนำดีเอ็นเอมาตรวจอีกครั้งว่าเคยมีประวัติการก่อเหตุตรงกับเหตุการณ์ใดบ้าง ส่วนอีก 2 รายที่ถูกจับหลังจากเหตุการณ์สงบ คือ นายอับดุลรอมัน สาลา อายุ 28 ปี พบมีหมายจับ ป.วิอาญา 2 หมาย และนายอีซอ มะดีเยาะ อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านที่คนร้ายหลบซ่อนตัว ขณะนี้ถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกเพื่อสอบสวนขยายผลที่กรมทหารพรานที่ 41 แล้ว

        ส่วนอาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 3 กระบอกที่ยึดได้จากผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายนั้น ตรวจสอบพบว่ามีหมายเลขทะเบียนระบุที่มาของอาวุธปืนได้ชัดเจน โดยกระบอกที่พบอยู่ที่ศพนายซาการียา พบว่าได้เคยนำไปก่อเหตุยิง นายเล็กเสียชีวิต พื้นที่ ต.กะรุบี อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2552 และกำลังตรวจสอบว่าปืนทั้ง 3 กระบอกเคยนำไปก่อเหตุที่ใดอีกบ้าง

         ด้าน พ.ต.อ.โพธ สวยสุวรรณ รักษาการ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงสนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจสอบในพื้นที่ ต.น้ำดำและใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีคนร้ายที่หลบหนีไปได้อีก 1-2 ราย เชื่อว่าน่าจะกบดานในพื้นที่โดยมีสมาชิกแนวร่วมคอยให้ความช่วยเหลือ หากพบว่ามีใครช่วยเหลือก็จะถูกดำเนินคดีทันที นอกจากนี้ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่และชุดวิทยากรเข้าไปตรวจสอบและหาหลักฐานเพิ่มเติมบริเวณจุดเกิดเหตุปะทะ เพื่อเก็บดีเอ็นเอ และหาอาวุธที่คาดว่าน่าจะฝังไว้เพื่อเตรียมก่อเหตุ คาดว่ากลุ่มดังกล่าวน่าจะเข้ามาเคลื่อนไหววางแผนเพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุในพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ทราบเสียก่อน

         สำหรับเหตุปะทะจนทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 3 ศพนั้น แท้จริงแล้วก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น อยากให้ออกมามอบตัวและให้สู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม สำหรับสถานการณ์โดยทั่วไปก็ยังไม่นิ่งนอนใจ เจ้าหน้าที่จะต้อง รปภ.เข้มทุกพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มก่อความไม่สงบอาจจะออกมาตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐและจะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ

         วันเดียวกันนี้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ (ฉก.นย.ทร.) ค่ายจุฬาภรณ์ จ.นราธิวาส และ ฉก.นย.นราธิวาส 31 อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ โดยมี น.อ.นพดล ฐิตวัฒนสกุล ผบ.ฉก.นย.คนใหม่ ให้การต้อนรับ โดยพล.ร.อ.ณรงค์ ให้โอวาทกับกำลังพลตอนหนึ่งว่า ให้ยึดยุทธศาสตร์พระราชทานเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ต่อไป และย้ำว่าให้ทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ประมาท เพราะในพื้นที่เต็มไปด้วยอันตราย ขอบคุณกำลังพลที่เสียสละ ทุ่มเท มั่นใจในหน่วยนาวิกโยธินที่มีรูปแบบการฝึกฝนที่เคี่ยวกรำตามแบบฉบับของนาวิกโยธิน ซึ่งความกล้าหาญที่เต็มเปี่ยมอยู่ในจิตวิญญาณของทุกคน ตนรู้ว่าทุกคนเสี่ยงอันตราย เพราะสถานการณ์ยังคงรุนแรง แต่การทุ่มเทของทหารเรือทุกคน ได้ทำให้เป็นที่น่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากประชาชน แต่อย่าประมาท และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองทุกคนให้ปลอดภัย

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการเดินทางมาตรวจเยี่ยมที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน (ฉก.นย.) จ.นราธิวาส แล้ว ผบ.ทร. มีกำหนดจะเดินทางตรวจเยี่ยมหน่วยของกองทัพเรือที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ในระหว่าง วันที่ 16-18 ต.ค.นี้ด้วย โดยมีกำหนดการจะเดินทางไปยังกองทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือภาคที่ 3 และฐานทัพเรือพังงาด้วย

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (16 ต.ค.) ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี นายวิทยา พานิชพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานมอบอาวุธปืนลูกซองยาวขนาด 12 เกจ ยี่ห้อเรมิงตัน รุ่นเอ็ม 870 เอ็กซ์เพรส เทคทิคอล พร้อมอุปกรณ์ ให้แก่กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ จำนวน 66 กระบอก เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน โดยมีกำนันและผู้ใหญ่บ้าน จาก 10 ตำบล 66 หมู่บ้าน ใน จ.ปัตตานี เข้ารับมอบ

         นายวิทยา พานิชพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า สำหรับการมอบอาวุธปืนลูกซองให้แก่กำนันและผู้ใหญ่บ้านในครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้เป็นอาวุธที่ป้องกันตนเอง และดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อจุดมุ่งหมายในการร่วมสร้างสันติสุข มีความรัก สามัคคี และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชุมชนของตนเอง ส่งเสริมให้เกิดสันติสุขให้ได้ในเร็ววัน และนำอาวุธที่ได้รับมอบไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจให้เก็บดูแลรักษาให้ดี อย่าให้ถูกลักขโมยเด็ดขาด

http://narater2010.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger

หน้าเว็บ

ผู้ติดตาม