กรณี เพจเฟสบุ๊ค Patani Peace สันติภาพปาตานี ได้ลงบทความ เรื่อง 9 คำถามต่อ"เปอร์มัส" กับคำตอบเรื่องเอกราช - ปกครองตนเอง บทความนี้จะเห็นได้ว่า กลุ่มPermas พยายามที่จะออกสื่อให้ทุกคนรับรู้ว่ากลุ่มตัวเองเป็นตัวแทนปากเสียงของชาวบ้าน ทำเพื่อประชาชนปาตานี
แต่จริงๆ แล้วเป็นเทคนิคการโฆษณาชวนเชื่ออย่างหนึ่งในการแย่งชิงมวลชนของกลุ่มฯ ในดินแดนปลายด้ามขวาน!
ประชาชนในพื้นที่ทราบดีว่า Permas "เปอร์มัส" เป็นองค์กรนักศึกษาที่ทางขบวนการบีอาร์เอ็น ใช้เป็นปีกการเมือง เพื่อให้ออกมาเคลื่อนไหว รณรงค์ ปลุกกระแสความรักชาติปาตานี ชี้นำให้มีการลงประชามติเพื่อกำหนดใจตนเอง แยกตัวเป็นอิสระนำไปสู่เอกราช ถือว่าเบื้องหลังของ Permas ทั้งกลุ่มที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนล้วนเป็นพี่เลี้ยงที่อยู่ในขบวนการฯ โดยมีทีมวิชาการปฏิวัติชี้นำอยู่ เรียกว่า กลุ่ม PRC (Pattani Revolotion Research Center) เห็นได้จากการจัดกิจกรรมส่วนใหญ่จะดึงมวลชนมลายูเป็นเครื่องมือ โดยเฉพาะกิจกรรมเปิดเวที "บีชารา ปาตานี" (Bicara Patani) ขึ้นหลังจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเปิดตัวพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น
"เวทีบีจารอ" เป็นเวทีสร้างกระแส ปลุกระดม ยุยง ให้ชาวบ้านพูดถึงทางออกของปาตานี (โดยนัยหมายถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้)ได้ทุกมิติ แม้กระทั่งการแยกตัวเป็นเอกราช เขตปกครองตนเอง เขตปกครองพิเศษ หรือการลงประชามติเพื่อกำหนดใจตนเอง
ที่ผ่านมาทางกลุ่ม Permas มีความพยายามบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของรัฐบาล ทั้งๆ ที่รัฐบาลมาดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชน ไม่ได้มากดขี่ข่มเหง ไม่ได้มาทำลายสิทธิของความเป็นอัตลักษณ์มลายูมุสลิม ไม่เคยคิดจะทำสงครามกับใคร แต่กลุ่มเหล่านี้ได้กล่าวหาใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งเปิดเผยและที่ลับอย่างต่อเนื่อง โดยการแฉประวัติด้านลบและพฤติกรรม ผ่านทางเพจเฟซบุ๊คไม่ระบุตัวตน หรือที่เรียกว่า "เพจผี" ซึ่งการกล่าวหา ใส่ร้าย เป็นสิ่งต้องห้ามในศาสนาอิสลาม
อัลลอฮฺตรัสไว้ ความว่า "ความหายนะจงประสบแด่ผู้นินทาและผู้ใส่ร้ายผู้อื่นทุกๆคน"
{อัลฮุมะซะฮฺ : 1} อัลฮะดีษ รายงานจากท่านมู่อาวิยะฮฺ (ร่อดียั้ลลอฮู่ อันฮฺ) กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ กล่าวว่า : แท้จริงหากท่านเสาะหาข้อบกพร่องของผู้คน ดังนั้นก็เท่ากับท่านได้ทำลายพวกเขาแล้ว หรือท่านเกือบทำลายพวกเขา{บันทึกโดย อบูดาวูด}
อธิบายฮะดีษ : การเสาะหาข้อบกพร่องของผู้คน ก่อให้เกิดความเกลียดชัง การเป็นศัตรูกันและกัน และความไม่ดีต่าง ๆ มากมาย เป็นไปได้ว่าการเสาะหาข้อบกพร่องของผู้คนและการเผยแพร่สิ่งนั้นมันจะทำให้เกิดความกล้าในการทำบาปต่างๆ แก่คนเหล่านั้น ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุที่จะเพิ่มความเสียหายขึ้นไปอีก {บัซลุ้ลมัจฮูด}
จากอัลกุรอานและฮะดีษนี้แล้ว ทำให้ทุกคนได้กระจ่างและตาสว่าง เพราะได้รู้ถึงพฤติกรรมอันชั่วร้ายของกลุ่มนักศึกษา Permas ซี่งไม่ใช่พลังบริสุทธิ์แต่อย่างใด แต่เป็นพลังที่ถูกครอบงำ กดทับ ไม่เสรีทางความคิด การดำเนินกิจกรรมออกนอกกรอบของหลักการอิสลามโดยสิ้นเชิง เพราะมีการพยายามใส่ร้าย ปลุกปั่น ยุยง ก่อให้เกิดความเกลียดชังให้มนุษย์เป็นศัตรูกัน ฉะนั้นขอให้ประชาชนชาวมลายูอย่าได้ให้ความร่วมมือกับกลุ่มเหล่านี้ เพราะจะนำพาให้เราสร้างบาปไปตลอดชีวิต (ขอให้อัลลอฮฺห่างไกลด้วยเถิด)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น